top of page

มเหสี

เมดูซ่า

 ผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยงามมาก และเป็นหญิงสาวที่มีผมเป็นงู ความร้ายกาจของเมดูซ่าถูกเล่าขานกันมาว่า หากมีใครจ้องมองที่ตาของเธอ บุคคลผู้นั้นจะกลายเป็นหินในทันที

ประวัติความเป็นมาของเมดูซ่า กล่าวไว้ว่า เธอเป็นหนึ่งในลูกสาวสามคนของเมทิส เจ้าแห่งสติปัญญาและสามารถแปลงกายเป็นสิ่งต่างๆได้มากมาย เดิมทีแล้ว ลูกทั้งสามของเมทิสล้วนมีใบหน้าที่สวยงามมากทุกคน แต่เมื่อวันหนึ่งเมื่อเมทิสถูกเทพซุส (Zeus) ข่มขืนรังแกและกลืนกินลงท้องไป โดยซุสหวังที่จะได้ใช้สติปัญญาและความสามารถในการแปลงร่างของเมทิสมาเพิ่มพลังอำนาจให้แก่ตนเอง ซึ่งการมีพลังดังกล่าวย่อมทำให้ซุสกลายเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่และหาใครเทียบฝีมือได้ยาก

เทพธิดาอาเธน่า (Athena) ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างแปลกประหลาด ซึ่งนางกำเนิดมาจากการพลังอำนาจของเมทิสที่ล้นทะลักออกมาจากหน้าผากของเทพซุส เมื่อเธอได้เกิดขึ้นมาแล้ว เธอก็เติบโตขึ้นพร้อมกับความสามารถทางสติปัญญาเหมือนอย่างเมทิสผู้เป็นแม่ และอาเธน่าก็ถือเอาเมดูซ่าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของแม่ด้วย แม้ว่าเมดูซ่าจะกลายเป็นศัตรูคนสำคัญของเธอในเวลาต่อมา

เมื่อเมดูซ่าเติบใหญ่ เธอก็กลายเป็นสาวงามที่มีชายมากมายหมายปองหลงรัก เมดูซ่าได้เดินทางไปบูชาเทพอาเธน่ายังวิหารของเธอ และที่นั่นเมดูซ่าก็ได้พบกับเทพโพไซดอน (Poseidon) ซึ่งแลเห็นว่าเมดูซ่ามีหน้าตาที่สวยงามเป็นอย่างมาก จึงเกิดการหลงรักและต้องการจะครอบครองมาเป็นสมบัติของตน เทพโพไซดอนจึงขืนใจเมดูซ่า เมื่ออาเธน่าเห็นดังนั้นก็ได้ทีจึงใส่ความเมดูซ่าว่แอบไปลบหลู่อาเธน่าในวิหารศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจึงสาบเมดูซ่าให้กลายเป็นมารร้ายที่มีหน้าตาน่าเกลียดน่าชังแทน ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังสาบให้ผมของเมดูซ่าที่เคยสวยงามกลายเป็นงูแทน

เมดูซ่ารู้สึกอับอาย และโกรธแค้นอาเธน่าเป็นอย่างมากที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้ เมดูซ่าจึงใช้ความโกรธแค้นนี้มาเป็นพลังในการสาบบุคคลที่เผลอมามองหน้าเธอให้แข็งเป็นหินไป เพื่อเป็นการล้างความแค้นที่ทำให้เธอต้องกลายมาเป็นเช่นนี้ ซึ่งเหตุผลนี้เองที่ทำให้เมดูซ่ากลายเป็นนางมารที่ร้ายที่สุดในตำนานกรีก

ในที่สุด เมดูซ่าก็ตายด้วยฝีมือของเพอร์ซีอุส โดยเมดูซ่าถูกเพอร์เซอุสใช้ดาบฟันที่คอจนขาด ซึ่งการตายของเมดูซ่าครั้งนี้ก็มีอาเธน่าเป็นผู้วางแผนเรื่องราวทั้งหมดนั่นเอง ซึ่งการที่อาเธน่าสั่งให้เพอร์เซอุสไปทำร้ายเมดูซ่าจนถึงแก่ความตายแทนตนเองนั้น ก็เป็นเพราะอาเธน่าไม่อยากให้มือของตัวเองเปื้อนเลือดไปมากกว่าเดิมนั่นเอง

bottom of page